ประวัติของภาพ portrait น่าจะเริ่มตั้งแต่ที่มนุษย์เริ่มรู้จักการวาดเขียน
ดังเช่นที่เราได้เห็นภาพวาดเหมือนของใบหน้าของคนตั้งแต่ยุคโบราณเช่น ในปิรามิด
เป็นต้น ซึ่งเป็นการบันทึก
เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รับทราบว่าคนรุ่นก่อนนั้นมีใบหน้าเช่นไร
โดยที่การวาดภาพเพื่อบันทึกใบหน้าของคนนั้นมีการพัฒนามาโดยตลอดเวลา
ให้ดูเหมือนจริงหรือบางครั้งก็ดูสวยหรือดูดีกว่าความเป็นจริง ทั้งนี้เมื่อมีการพัฒนาการวาดเขียนให้ความสวยงามก็มีพัฒนาการตามไปด้วย
เช่นที่เราสามารถหาดูได้ตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆที่เก็บสะสมภาพวาด
เราจะเห็นได้ถึงความสำคัญของการสะสมภาพวาดของเหมือนของคนที่มีความสำคัญทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์และความสวยงามที่มีอยู่ในรูปเดียวกัน
และการที่ให้ความสำคัญแก่ภาพวาดรูปเหมือนของบุคคลทำให้บางภาพที่มีชื่อเสียงดังทั่วโลกและมีราคาจนประเมินมิได้
เช่นภาพวาดของโมนาลิซ่า ที่ปัจจุบันแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ เมืองปารีส
ปะเทศฝรั่งเศส ภาพนี้เป็นภาพวาดโดยจิตรกรเอกนามว่า ลีโอนาโด ดาวินชี เป็นภาพวาดใบหน้าของหญิงสาวที่อมยิ้มเล็กน้อยมีสายตาที่ทักทายเชิญชวนให้คนหันมาจ้องมองภาพนี้ได้นานๆ
ด้านหลังของภาพเป็นวิวทิวทัศน์มี ภูเขา ต้นไม้และแม่น้ำอยู่ด้านหลัง
ภาพวาดรูปเหมือนของบุคคลภาษาอังกฤษเรียกว่า portrait นั้นในสมัยโบราณให้ความสำคัญอย่างมากไม่ว่าในสังคมตะวันตกและสังคมตะวันออก
เพราะถือว่าเป็นการสร้างหลักฐานอย่างหนึ่งของการมีอยู่ของคน
คนนั้นเพื่อให้คนรุ่นต่อมาในอนาคตได้เห็นได้รู้จักและสามรถแฝงนัยยะอื่นๆได้เช่น
ต้องทำความดี ขยันหมั่นเพียร
เพราะถือว่าคนที่ล่วงลับไปแล้วสามารถมองผ่านรูปเหมือนที่ติดไว้เตือนสติคนรุ่นต่อมาได้
ถือเป็นประโยชน์อีรูปแบบหนึ่งของภาพ portrait นอกจากที่ไว้เตือนลูกหลานแล้วรูปภาพ
portrait ก็สามารถแสดงเรื่องอื่นๆได้อีกเช่น
การแสดงฐานะที่มั่งคั่งได้จากภาพ portrait ได้ด้วย
โดยที่สามารถให้เห็นถึงเครื่องประดับที่หรูหราหรือให้เห็นถึงบ้านช่องที่ใหญ่โต
นับว่าภาพ portrait มีประโยชน์ด้วยกันหลากหลายๆอย่างนอกจากการที่แสดงให้เห็นตัวตนที่มีอยู่
ภาพถ่าย portrait
ได้ถูกพัฒนาการตลอดมาในประวัติศาสตร์เพราะจากความสำคัญที่กล่าวมาข้างต้น
ซึ่งการที่จะได้มาซึ่งภาพ portrait ในสมัยโบราณนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่โตมาก
เพราะต้องจากจิตรกรที่เก่งและมีชื่อเสียงมาวาดซึ่งต้องเสียค่าจ้างที่มีราคาค่อนข้างสูงเพื่อให้ภาพที่ต้องการนั้นออกมาสวยงามเป็นที่น่าเก็บสะสม
ซึ่งการใช้จิตรกรชื่อดังนั้นก็ต้องรอเป็นเวลานานเนื่องจากมีคนรอให้วาดเป็นจำนวนมากเพราะแต่ละภาพนั้นต้องใช้เวลาวาดค่อนข้างนาน
ยิ่งถ้าภาพยี่งมีขนาดใหญ่ก็ยิ่งต้องใช้เวลานาน
จนเมื่อวิทยาศาสตร์มีความก้าวหน้ามากขึ้น
ก็ได้มีการคิดค้นกล้องถ่ายภาพเกิดขึ้นมีการสร้าง กล้อง เลนซ์
และวิธีการเก็บภาพที่ถ่ายไว้ได้ โดยที่การพัฒนาการเก็บภาพที่ถ่ายไว้ได้
ของการถ่ายภาพผู้ที่คิดค้นการบันทึกและเก็บภาพถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพคือนาย Louis-Jacques-mande
Daguerre ที่คิดค้นการบันทึกภาพได้
ซึ่งเราเรียกชื่อระบบการบันทึกภาพแบบนี้ว่า ระบบดาร์แกร์ ( Daquerre ) ตามชื่อผู้ที่คิดค้นนั้นเอง และการถ่ายภาพ portrait ก็เกิดขึ้นครั้งแรกในปี คศ.1839 คือภาพถ่าย portrait ของนาย Louis-Jacques-mande
Daguerre นั้นเอง
หลังจากนั้นเป็นต้นมาความนิยมในการใช้ภาพถ่ายก็มีอย่างแพร่หลาย
เนื่องจากภาพถ่ายนั้นใช้งานได้สะดวกอีกทั้งเป็นการบันทึกภาพจากของจริง
การใช้กล้องเพื่อถ่ายภาพนั้นก็ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว
เทคนิคการบันทึกภาพได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวหน้ามากจนทำให้เกิดฟิล์มที่ใช้ในการถ่ายภาพที่ทำให้ออกมาเป็น
ภาพเนกาทีฟซึ่งใช้การอย่างแพร่หลายเป็นเวลานาน
จนเมื่อเกิดกล้องถ่ายภาพด้วยระบบดิจิทัลจึงทำให้การถ่ายภาพด้วยฟิล์มลดความนิยมลงไป
จะเห็นได้ว่าการถ่ายภาพเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วเนื่องจากที่ใช้งานได้สะดวก
รวดเร็ว ได้ภาพที่เหมือนจริง ไม่ต้องนั่งรอจิตรกรมานั่งวาดภาพเหมือนให้
อีกทั้งราคาก็ย่อมเยาว์กว่า จึงทำให้มีการเปิดสตูดิโอและร้านรับถ่ายภาพ portrait
กันตามเมืองใหญ่ในโลกอย่างแพร่หลาย
หลังจากมีการพัฒนาการของระบบการถ่ายภาพดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ส่วนประวัติการถ่ายภาพในเมืองไทย
น่าจะเริ่มในสมัยของ รัชกาลที่ 3
โดยมีภาพถ่ายภาพแรกที่พระยา ไทรบุรีได้ส่งรูปพระราชินีวิคตอเรียเข้ามาถวาย
รัชกาลที่ 3 แต่รัชกาลที่ 3 ไม่ทรงเชื่อ และหลังจากนั้น ก็มีสังฆราชปาเลอกัว
แห่งวัดอัสสัมชัญ ได้เข้ามาบันทึกภาพถ่ายเป็นคนแรกในเมืองไทย
สำหรับช่างถ่ายภาพคนแรกที่เป็นคนไทยคือ พระยากระสาปน์ กิจโกศล ต้นตระกูล อมาตยกุล
ท่านผู้นี้มีความสามารถอย่างมากที่สามารถใช้กล้องถ่ายภาพที่พระราชินีวิคตอเรียส่งมาถวาย
รัชกาลที่ 4 ใช้ถ่ายภาพได้โดยที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษเลย
นอกจากนี้ช่างถ่ายภาพที่น่ากล่าวถึงอีกท่านคือ หลวงอัคนีนฤมิตร หรือ นายจิตร
ต้นตระกูล จิตราคนี ช่างถ่ายภาพหลวงในสมัยรัชกาลที่ 4และ 5
นับเป็นช่างถ่ายภาพอาชีพคนแรกที่เป็นคนไทย
ซึ่งนอกจากเป็นช่างถ่ายภาพหลวงแล้วยังเปิดรับถ่ายภาพ portrait โดยที่ร้านรับถ่ายภาพหรือสตูดิโออยู่บนแพหน้าวัดซางตาครูซ ซึ่งนับเป็นร้านรับถ่ายภาพร้านแรกของเมืองไทยเช่นกัน
จากประวัติศาสตร์ของภาพ portrait จะเห็นได้ว่ามีพัฒนาการจากการวาดภาพมาเป็นการถ่ายภาพที่นิยมอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากความสำคัญของภาพ portrait ที่สามารถใช้แทนนัยยะต่างๆได้หลากหลายอย่าง
ตั้งแต่แสดงถึงความเจริญของบ้านเมืองนั้นๆ หรือแสดงให้เห็นถึงฐานะและความมั่งคั่ง
หรือความสวยงาม,มีฐานะบรรดาศักดิ์สูงส่ง เป็นต้น ที่ภาพ
portrait สามารถบอกหรือแสดงออกมาให้เห็นได้ ซึ่งภาพหรือภาพถ่าย portrait
ที่มีส่วนประกอบภายในภาพนั้นเพื่อให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของคนคนนั้นเราจะเรียกว่า
environmental portrait ซึ่งภาพหรือภาพถ่าย portrait ส่วนมากก็จะเป็นลักษณะนี้เกือบหมด โดยที่เป็นมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น